พฤติกรรม ‘ติดนิ้ว’ ถ้าเป็นช่วงเด็กเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าติดมาจนโตเข้าสู่วัยก่อนวัยเรียนก็นับว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องแก้ไขกันแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นหากพบว่าเด็กเริ่มดูดนิ้วให้หยุดพฤติกรรมตั้งแต่แรกเห็น ไม่ควรปล่อยไว้นานจะแก้ไขยากค่ะ เด็กเล็กมักจะดูดนิ้วมือเพื่อความพึงพอใจในตัวเอง ต้องการกล่อมตัวเองในขณะที่กำลังจะหลับ หรือเพราะขาดความมั่นใจ ขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่ จึงหาทางออกด้วยการดูดนิ้วเพื่อปลดปล่อยความกลัวเหล่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการระบายความเครียดเบื้องต้นของตัวเด็กเอง คุณครูสามารถสังเกตได้ว่า เด็กดูดนิ้วเพราะความหิว ความเหนื่อยหรือความกลัว ควรรีบแก้ไขสถานการณ์นั้นๆ โดยปกติเด็กที่ดูดนิ้วมือมักจะเลิกเองโดยธรรมชาติเช่นกันค่ะ โดยไม่มีระยะเวลากำหนดที่แน่นอน แต่โดยทั่วไปไม่น่าเกิน 4-5 ปี แต่ถ้านานกว่านั้นแล้วเด็กยังไม่เลิกดูดนิ้ว อาจส่งผลเสียต่อฟันแท้ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ค่ะ
ครูจึงได้หาวิธีการแก้ไขปัญหาดังนี้
- ต้องหมั่นดึงนิ้วมือออกจากปากของเด็ก เวลาที่เห็นเขาเริ่มที่จะเอานิ้วเข้าปากอีก และให้เขาหันมาเล่นของเล่นอื่นแทน
- หากิจกรรมให้เด็กทำก่อนจะนอน เช่น การเล่านิทาน การพูดคุยกันในระหว่างวัน ร้องเพลงกล่อม เพื่อให้เด็กหลับง่ายขึ้นโดยไม่ต้องดูดนิ้วเพื่อกล่อมตัวเอง
- ช่วงกลางวันให้เด็กได้มีกิจกรรมเคลื่อนไหว ออกกำลังกายตามสมควร ส่งผลให้หลับง่ายขึ้นในช่วงนอนกลางวัน
- อย่าใช้วิธีบังคับ ดุด่าหรือตีมือเพื่อให้เลิกดูดนิ้ว เพราะวิธีนี้นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้วยังจะทำให้เกิดความกลัว และความกลัวนั่นแหละค่ะ คือที่มาอย่างหนึ่งของการดูดนิ้ว
- คุณครูควรชักจูงด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ให้กำลังใจ หรือให้ของขวัญเวลาที่เด็กทำดี ที่เลิกเอานิ้วเอานิ้วเข้าปากค่ะ
จากการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีดังกล่าว สังเกตได้ว่า ช่วยลดพฤติกรรมการติดนิ้วของเด็กได้ผลดี แต่อย่างไรก็ตามยังต้องอาศัยเวลาสักพักเด็กก็จะเลิกพฤติกรรมการดูดนิ้วได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น